20 July 2017

Kanchanaburi Why Not

Kanchanaburi Why Not


Thailand is the ‘Dream Destination’ for all the white sand beaches and enchanted islands but there are so much more wonders to explore. Thailand is dazzling because of our pristine Nature, our fascinating Culture and remarkable Historical Attractions. One of the Jewel is Kanchanaburi Province located just a couple hours away from Bangkok.

Kanchanaburi is the largest province on the western part of Thailand, renowned for its natural beauty and the well-known ‘Bridge Over the River Kwai’. Though lacking alluring beaches, Kanchanaburi is blessed for Paradisiacal Waterfalls, Lake Dams, National Parks, Mountain Range and many more. It is a peaceful city along the side of the River Kwai surrounded by mountain range. One experience you shouldn’t miss is staying in the many floating resorts on the River Kwai or on Srinakarin Lake Dam (and I mean literally ‘floating’ on the water).  

The symbol of Kanchaburi, and perhaps the most famous attraction, is ‘River Kwai Bridge(pronounced khwaae as in air), resided just a couple minutes away from City Center. The Railway Bridge over the Kwai River is the start of the Death Railway to Burma, or Myanmar as Known today, built during the World War II. Apart from Bangkok, Kanchanaburi is where most activities during the World War II have taken place in Thailand. Today the only train running across the bridge is the sightseeing train, called ‘Nam Tok train’ taking both Thai and foreign tourists along the Death Railway to Nam Tok Station. Many attractions in the City are associated with the WWII, there are museums and war cemeteries scattered around Town. Personally as a Kanchanaburi residence, I recommend ‘Hellfire Pass’, located around 60 kilometers away on Route 323 (the only one not in the city). Here you’ll see remnant of the Death Railway tracks but don’t let the name fool you, Hellfire pass today is very pristine and peaceful, and the museum displaying actual belongings of the allied soldiers are worth visiting.  

Leading away from the city to the northwest are 2 main roads, one to Erawan National Park and Srinakharin Lake Dam, and the other to Sai Yok Yai and Sangkhlaburi. Erawan Waterfall and Srinakharin Lake Dam and National Park are only 80 kilometers away. The waterfall is named after the sacred elephant in Ramayana. The enchanted Erawan waterfall is famous for its clear cool water and the refreshing forest surrounding it. Located side by side is the Srinakharin Dam where you can have a picnic and enjoy panoramic view of the Lake. Famous activities in the Lake are dam fishing and staying in the many floating resorts lazing around or having fun with water activities they provided.

If you follow the other main road which is Route 323, you will never get bored as most of the attractions of Kanchanaburi are located along this route. An hour out of the city is Sai Yok Yai, a nice quiet town on the bank of River Kwai. The town is named after ‘Sai Yok Yai Waterfall’ which a fall on the cliff bank of the river. Here you will find several more floating hotels with great view of the river. There are a couple elephant camps nearby where you can enjoy the loveliness of Thai Elephats. Hellfire Pass is also around this area. At the end of the route there are 2 junctions, one leads to Thong pha bhum National Park, famous forest trekking as well as hiking, and the other leads to Sangklaburi, a nice quiet little town with unique culture by the Lake Dam. ‘Mon Bridge’ the longest wooden bridge in Thailand (850 meters) linking the town on both side of the river and the Underwater Temple are two things you should not miss when visit Sangklaburi. Around 20 kilometers away is the ‘Three Pagoda Pass’, a Thai-Burmese Border with border market where you can shop for both Thai and Burmese souvenirs.

Kanchanaburi offers varieties of accommodations from Luxury Resorts and Hotels to little cozy guesthouses along the riverside. Weather you choose to stay in and around the city or anywhere in the Province. Dining in the city is ranging from restaurants to street food, from local to international cuisine, from Tom Yam Kung, Som Tam to Pizza. You will never be hungry at any time of day.  

The easiest way to come to Kanchanaburi is by Bus. At the Bangkok Southern Bus Station take a bus or a minivan to the city. This takes around 2-3 hours. The Bus Station is right in the city center. From here you can grab a local taxi and go wherever you want.   


Getting around Kanchanaburi is rather easy. There are only 2 main Roads, Saeng Chuto Road runs through the length of the city and the By-pass road semi-circles it. There are smaller roads run parallel to the River Kwai. Most of the restaurants, guesthouses and local bars are situated along these roads. 

If you just want to browse through the city, a day or two might be enough. But if you want to explore the province, you’ll need a week or more to enjoy it all.

See you in Kanchanaburi! Happy Travelling! 

07 July 2017

เที่ยวปรากฤดูไหนดีที่สุด

เที่ยวปรากฤดูไหนดีที่สุด



จะไปเที่ยวทั้งที ใครๆ ก็อยากจะไปเที่ยวช่วงที่อากาศดีที่สุดของปี
แต่บางทีเราก็เลือกไม่ได้ เพราะขึ้นอยู่กับเวลาที่เราว่างด้วย บางทีเราลางานได้แต่เพื่อนที่จะไปด้วยลางานไม่ได้ก็ต้องมาวางแผนใหม่ใช่มั้ยละ แต่ไม่เป็นไรคะ จะไปเที่ยวช่วงไหนของปีก็ไม่มีปัญหา ถ้าเราเตรียมตัวดีซะอย่าง



อากาศที่ปรากก็เหมือนประเทศภาคพื้นยุโรปทั่วไป ปีหนึ่งๆ มี 4 ฤดู คือ ฤดูหนาว, ฤดูใบไม้ผลิ, ฤดูร้อน, ฤดูใบไม้ร่วง


ฤดูหนาว 

มี 3 เดือน มกราคม,กุมภาพันธ์ และธันวาคม ก็คือช่วงคาบเกี่ยวคริสต์มาส-ปีใหม่นั่นเอง 

ช่วงนี้อุณหภูมิตอนกลางวันเฉลี่ยอยู่ที่ 2 องศาเซลเซียส ตอนกลางคืนอาจต่ำสุดได้ถึง -15 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว แต่ใครที่คาดหวังอยากเห็นเมืองปรากทั้งเมืองเป็นสีขาวเพราะหิมะปกคลุม อาจจะต้องผิดหวังหน่อย เพราะปรากไม่ใช่เมืองที่มีหิมะเยอะ ถ้าหิมะตกช่วงเช้า ครึ่งวันก็ละลายหมดแล้วคะ


ฤดูใบไม้ผลิ


เริ่มตั้งแต่มีนาคม, เมษายน ไปจนถึงพฤกษภาคม 

ช่วงเดือนมีนาคมอากาศเริ่มอบอุ่นขึ้นบ้าง ช่วงนี้อุณหภูมิกลางวันเฉลี่ยอยู่ที่ 8 องศาเซลเซียส

เดือนเมษายน เป็นเดือนที่อากาศจะเพี้ยนๆ หน่อย จะมีฝนตกสลับกับแดดออก ใครหนีสงกรานต์บ้านเราไปเที่ยวปรากช่วงนี้อย่าลืมพกร่มกันไปด้วยนะ

เดือนพฤกษภาคม เป็นเดือนที่เหล่ากูรูแนะนำ เป็นเดือนที่อากาศอบอุ่น น่าเที่ยวมากที่สุดช่วงหนึ่งของปี


ฤดูร้อน 


อุณหภมิเฉลี่ยอยู่ที่ 20 - 35 องศาเซลเซียส อากาศกำลังดีไม่เย็นเกิน ไม่ร้อนเกิน ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ถึง เดือนสิงหาคม ถึงจะบอกว่าเป็นฤดูร้อนแต่ฝนก็ตกไม่บอกกล่าวได้ทุกเมื่อ อย่าลืมพกร่มกันด้วยนะคะ


ฤดูใบไม้ร่วง 


ก็เป็นอีกช่วงหนึ่งของปีที่น่าเที่ยว โดยเฉพาะเดือนกันยายนที่อากาศยังอบอุ่น อุณหภูมิอยู่ที่ 18 - 19 องศาเซลเซียส สบายๆ ไลท์โค้ทตัวเดียวเอาอยู่

เดือนตุลาคม กับพฤศจิกายน อากาศเริ่มเย็นลง และฝนตกบ่อย ถ้าไปเที่ยวปรากช่วงนี้ก็แฉะๆ หน่อย เตรียมรับมือกันด้วยนะคะ


ใครจะไปปรากช่วงไหนก็เตรียมเสื้อผ้ากันให้พร้อม หน้าหนาวเสื้อกันหนาวหนาๆ เสื้อโค้ทอุ่นๆ สวย หล่อกันให้เต็มที่ ฤดูใบไม้ผลิกับฤดูใบไม้ร่วงนอกจากเสื้อโค้ทเบาๆ เท่ๆ ก็อย่าลืมร่ม หรือเสื้อโค้ทที่กันฝนได้ แต่ไม่ว่าจะไปเที่ยวกันช่วงไหนของปีก็อย่าลืมรองเท้าคู่เก่ง เดินง่ายใส่สบายกันด้วยนะ เพราะถนนในเขต Old Town กับ Prague Castle หลายที่เป็นถนนหินแบบโบราณ และถ้าเที่ยวสองที่นี้ให้ทั่วก็ต้องบริหารน่องกันหน่อยคะ

25 June 2017

เที่ยวปรากทั้งทีมาทำความรู้จักเมืองปรากกันหน่อยดีกว่า

เที่ยวปรากทั้งทีมาทำความรู้จักเมืองปรากกันหน่อยดีกว่า


ปรากถูกแบ่งตามประวัติศาสตร์ของมืองออกเป็น 5 เขต คือ 

Prague Castle หรือ Castle Area
Lesser Town
Old Town
New Town
Jewish Quarter

แบ่งกลางด้วยแม่น้ำวอลตาวา Vltava โดยมี Prague Castle หรือ Castle Area, Lesser Town อยู่ฝั่งซ้าย และ Jewish Quarter, Old Town, New Town อยู่ฝั่งขวาของแม่น้ำ



Old Town หรือเมืองเก่า ถือเป็นจุดศูนย์กลางของเมืองปราก สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ตั้งอยู่ที่ย่านนี้ ร้านอาหาร, ผับ และร้านค้าดังส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในย่านนี้ ย่านนี้เป็นย่านที่มีนักท่องเที่ยวพลุกพล่านทั้งกลางวันและกลางคืน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีถนนสายเล็กๆ ซ่อนอยู่ตามมุมต่างๆ ให้ความรู้สึกถึงความเป็นย่านที่อยู่อาศัยที่หาได้ยากตามเมืองใหญ่ๆ ในยุโรป

ที่ใจกลางย่าน Old Town คือ Old Town Square จตุรัสเมืองเก่าซึ่งถือเพชรน้ำงามของปราก และเป็นจตุรัสที่สวยที่สุดในยุโรปตอนกลาง เป็นจุดเยี่ยมที่สุดสำหรับเริ่มต้นการท่องเที่ยวปราก



Hradcany และ Prague Castle ภาพประทับใจที่สุดของปราก คือภาพปราสาทปรากตัดกับท้องฟ้า Prague Castle ตั้งอยู่บนเนินเขาบนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำวอลตาวา มองจากตัวปราสาทลงมาจะเห็นวิวเมืองปรากได้ทั่วทั้งเมือง เคยเป็นที่อยู่ของราชวงศ์มานานกว่าพันปี จนถึงทุกวันนี้ก็ยังเป็นที่ศูนย์บัญชาการใหญ่ของท่านประธานาธิบดี ถึงจะเรียกว่าปราสาท แต่จริงๆ แล้วถือเป็นเมืองย่อมๆ ได้เลยทีเดียว เป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ หลายแห่งของปราก อย่าง โบสถ์ St. Vitus และ Golden Lane



Lesser Town หรือ Mala Strana เป็นเขตที่น่าหลงใหล และน่าถ่ายรูปมากที่สุดเขตหนึ่งของปราก ถนนปูด้วยก้อนหินที่ขึ้นลงเนินหลายสายยังดูสวยงามเหมือนแรกสร้าง ลัดเลาะไปตามสวนสาธารณะต่างๆ ที่จัดแต่งไว้อย่างสวยงาม รวมทั้ง Petrin Hill และ Petrin Hill Tower ย่านนี้กินอาณาเขตไปถึงสะพาน Charles Bridge และเชื่อมต่อกับย่าน Old Town ผ่านสะพานนี้


Jewish Quarter ย่ายชุมชนชาวยิวชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าย่านนี้เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชาวยิวมาตั้งแต่สมัยก่อน ถึงแม้ว่าบ้านเมืองของชาวยิวจะถูกรื้อ และสร้างใหม่เป็นอาคารที่พักอาศัยหรูหราสูง 5-6 ชั้นมาตั้งแต่ช่วงปี 1890 แต่ก็ยังคงมี Jewish Town Hall และสุสานจากยุคกลางที่บ่งบอกความเป็นมาหลงเหลืออยู่ ย่านนี้เป็นที่ไม่ใหญ่นัก อยู่รอบเขต Old Town ขนาบข้างด้วยริมฝั่งแม่น้ำและถนนปารีสซึ่งเป็นเขตที่แพงที่สุดของปราก และเป็นที่ตั้งของร้านแบรนด์เนมต่างๆ มากมาย


New Town เขตเมืองใหม่นี้เป็นย่านการค้าและย่านธุรกิจของปราก ห้างสรรพสินค้าใหญ่, โรงแรม, โรงหนัง, ไนท์คลับ และร้านอาหารฟ้าสต์ฟูดส์ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในย่านนี้ ศูนย์กลางของย่านนี้คือ Wenceslas Square เรียกอีกอย่างว่าเป็นเขต ดาวน์ทาวน์ของปรากนั่นเอง ถนนที่ยาว และเป็นลาดเนินนี้เคยเป็นตลาดซื้อขายม้าสำหรับชนชั้นทำงานมาก่อน จนทุกวันนี้เขต Old Town ก็ยังคงแยกจากเขต New Town เพียงแค่ถนนกั้น




โพสต์หน้าจะพาไปเจาะลึกสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละเขตกัน

24 June 2017

เที่ยวปรากกินอะไรดี

เที่ยวปรากกินอะไรดี


อาหารเป็นวัฒนธรรมที่สำคัญอย่างหนึ่งของแต่ละปรเทศ เพราะฉะนั้นไปประเทศไหนเราก็ควรจะลองอาหารพื้นเมืองของประเทศนั้น ไม่งั้นก็ไม่สนุกสิคะ

วันนี้เลยจะมาแนะนำ อาหารประจำชาติเชกสัก 2-3 เมนู

SMAZAK หรือ Fried Cheese ชีสทอด เป็นชีสทั้งชิ้นชุบเกล็ดขนมปังทอด

SVICKOVA จานนี้เป็นอาหารพื้นเมืองที่เก่าแก่มากจานหนึ่ง เป็นเนื้ออบราดด้วยซอสข้นๆ เสิร์ฟพร้อมขนมปังนิ่มๆ วิธีการกินที่ถูกต้องคือจุ่มขนมปังในซอสให้ชุ่มๆ แล้วค่อยทาน

TRDLENIK เป็น Street Food ยอดนิยมของของปรากเป็นขนมอบทีมีรูกลวง ปกติโรยน้ำตาล แต่ถ้าใครกล้าพอจะใส่ไส้นูเทลล่าก็ได้คะ เค้าจะใส่ให้จนเต็มรูกลวงตรงกลางเลยทีเดียว




เบียร์ Pilsner เบียร์พื้นเมืองของเชก




ที่ปรากนี่ถ้าอยากทานอาหารร้านไหนให้โทรจองก่อนล่วงหน้า คนเช็กเครซี่เรื่องการจองมาก เพราะงั้นจองก่อนไปนะคะ เพื่อความชัวร์



จิบกาแฟแลเมืองปราก


คอกาแฟทั้งหลายไปเที่ยวปรากทั้งที อย่ามัวแต่ดื่ม Starbuck กันอยู่เลยคะ
มาลองร้านกาแฟสวยๆ ในเมืองปรากที่เสิร์ฟกาแฟหอมๆ เคล้าวิวสวยๆ กันดีกว่า



ร้านที่แนะนำ 



ฝั่ง Old Town และ New Town


-Kavárna Slavia หรือ Cafe Slavia เป็นร้านเก่าแก่สไตล์เช็ก ตั้งอยู่บนถนนริมแม่น้ำ 9.00-24.00 น.
-Café Louvre ร้านกาแฟลูฟร์ เสิร์ฟทั้งอาหารและเครื่องดื่ม มีทั้งอาหารเช็ก และฝรั่งเศส เปิดตั้งแต่ 9.00-23.30 น.
-Mama Coffee มาม่าคอฟฟี่ ร้านนี้เด่นเรื่องกาแฟหอมอร่อย เปิดตั้งแต่ 10 โมงเช้า - 4 ทุ่ม ร้านตั้งอยู่ย่าน New Town
-Café Neustadt ร้านกาแฟสไตล์ฮิปสเตอร์ ร้านนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจาก มาม่าคอฟฟี่เท่าไร แต่ทางเข้าออกจะลึกลับอยู่ซักหน่อย ร้านนี้เปิดตั้งแต่ 10 โมงเช้า - เที่ยงคืน


ฝั่ง Mala Strana ฝั่งแม่น้ำเดียวกับสวน Petrin และ Prague Castle 

-Kavárna v Sedmém nebi ร้านนี้กลางวันเป็นร้านกาแฟ กลางคืนเป็นผับคะ
-Kavárna co hledá jméno เป็นร้านกาแฟที่ดังมากอีกแห่ง ร้านนี้เปิดตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึง 4 ทุ่มคะ

21 June 2017

ปราก - แลกเงินที่ไหนไม่ถูกโกง

ปราก - แลกเงินที่ไหนไม่ถูกโกง


ปกติแล้วถ้าเราไม่แลกเงินก่อนเดินทาง เราก็จะแลกเงินกันที่สนามบินใช่มั้ยคะ แต่ที่ปรากนี่ ไม่แนะนำให้แลกเงินที่สนามบิน เพราะนอกจากจะให้เรทต่ำแล้ว ยังคิดค่าคอมมิชชั่นสูงมากอีกด้วย บางเจ้าคิดสูงถึง 20% เลยทีเดียว

ที่ประเทศเชกเกียมีสกุลเงินเป็นของตัวเอง คือเงินคราวน์ KORUNA หรือ CZK แต่ร้านค้าส่วนใหญ่รับเงินยูโรด้วย แต่ก็ต้องคอยเช็คว่าเรทที่ได้คุ้มค่ามั้ย

ค่าเงินปกติ (แบบคร่าวๆ ปี 2017
อยู่ที่ 1 ยูโร = 27 CZ
       1 ยูโร = 38 บาท
       1 CZK = 1.5 บาท


เพื่อให้เงินของเราคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ในการเดินทาง วันนี้จะมาแนะนำร้านแลกเงินหลักๆ สองร้านที่ให้เรทใกล้เคียงค่าเงินแลกเปลี่ยนประจำวันที่สุด 

1. ถ้าคุณพักอยู่ใกล้ Wenceslas Square (Václavské náměstí) คุณโชคดีคะ หันหลังให้พิพิธพันธ์แล้วเดินตรงไป 200 เมตร ที่ถนน Na Můstku 2 มี VISITOR CHANGE ของ Prague tourist office หรือศูนย์บริการนักท่องเที่ยวของเมืองปรากอยู่ ที่นี่เป็นของราชการ เพราะฉะนั้นรับประกันว่าได้เรทที่ดีแน่นอน 

2. ถ้าคุณพักอยู่ใกล้จตุรัสเมืองเก่า หรือ Old Town Square (Staroměstské náměstí) เราก็มีที่แนะนำอีกแห่งคะ ที่หัวมุมถนน MAISELOVA ตัดกับถนน KAPROVA มีร้านแลกเงินที่ให้เรทสูงมากๆอยู่อีกที่ ร้านใหญ่ตรงหัวมุมถนนฝั่งตรงข้าม KFC นั่นละคะ

ย้ำ!!!! ร้านใหญ่ๆ ป้ายสีฟ้าตรงหัวมุมเท่านั้นนะคะ ร้านอื่นไม่แนะนำ บางร้านเรทโหดมากถึง 1 ยูโร = 15 CZK และร้านพวกนี้บางร้านก็อยู่ในทำเลที่ดีมากๆ เสียด้วย

ถ้าไม่สะดวกไปสองร้านนี้จริงๆ ก็เช็คดูให้ดีๆ และเลือกเรทที่คุณรับได้


***ห้ามแลกเงินตามท้องถนนเด็ดขาด เพราะคุณอาจได้แบงค์ปลอมมาแทน!!!***

อย่าลืมว่า "ที่ไหนมีนักท่องเที่ยว ที่นั่นมักจะมีมิจฉาชีพอยู่ด้วยเสมอ"
อย่าลืมระวังตัวกันนะคะ

รักและห่วงใยคะ








19 June 2017

เดินทางในปรากฉบับสบายกระเป๋า

การเดินทางจากสนามบินเข้าปรากหลักๆ มี 4 วิธี


TAXI
UBER
Shuttle Bus
Public Transport



TAXI  วิธีนี้แพงสุด จากสนามบินไปปราก 25 ยูโร (25 ยูโร x 38 บาท = 950) ใช้เวลา 37 นาที
UBER ค่าเดินทาง 15-20 ยูโร ตกประมาณ 570-760 บาท
สองวิธีนี้ถ้าไปกันหลายคน และสัมภาระเยอะก็เป็นวิธีน่าสนใจคะ

Shuttle Bus ค่าเดินทาง 7 ยูโร หรือ ราว 270 บาท วิธีนี้ใช้เวลานานสุด แต่ก็สบายตัวและสบายกระเป๋าพอสมควรเพราะต่อเดียวถึง

Public Transport วิธีนี้ชนะเลิศ เพราะนอกจากจะถูกสุด เร็วสุดแล้ว ยังทำให้คุณได้ประสบการณ์การเดินทางแบบคนปรากจริงๆ
ค่าเดินทางก็แสนถูกเพียง 1.2 ยูโร หรือราวๆ 50 บาท เท่านั้น

เรามาเริ่มการผจญภัยเล็กๆ กัน จาก Terminal 2 ซึ่งสายการบินส่วนใหญ่ลงที่อาคารนี้ ไปที่ EXIT D  ไปที่สถานีรถประจำทาง ซื้อตั๋วเดินทางผ่านตู้ขายตั๋ว ก็ตู้สี่เหลี่ยมสีเหลืองๆส้มๆ นั่นละคะ
มีตู้ใช้เงินกับตู้ใช้บัตรเครดิตคะ ตู้ผอมเป็นตู้สำหรับบัตรเครดิต อ้อลืมบอกไปนิด

***แลกเงินที่สนามบินนี่ได้  เรทต่ำนะคะ แล้วคุณยังจะโดนชาร์จ 5% on top ด้วยคะ***

ตู้ขายตั๋วเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษได้นะ ที่ตู้นี้ให้เราซื้อตั๋วเดินทางแบบ 90 นาที ราคา 32 CZK ก็ประมาณ 1.2 ยูโร ตั๋วนี้ขึ้นได้หมด ทั้งรถบัส, Metro และ Tram หรือรถรางคะ
รถที่จะไป City Center คือสาย 119 รถจะมาทุกๆ 6 นาที ขึ้นรถแล้วอย่าลืมใส่ตั๋วในเครื่องตรวจตั๋วนะคะ ตั๋วเดินทางนี้ใช้ได้ 90 นาที
ก่อนออกจากสนามบินเอาแผนที่ Public Transport มาด้วยก็ดีนะ จะช่วยได้มากเวลาเดินทาง และยังไงเค้าก็แจกฟรีอยู่แล้วคะ
เราลงรถบัสที่สถานีสุดท้าย คือ NADRAZI VELESLAVIN เพื่อไปขึ้น Metro หรือรถใต้ดินของที่นี่ ขึ้นสายสีเขียว ลงที่ สถาณี MUSTEK แล้วเลือกว่าจะออกทางออกไหน แต่วันนี้เราจะไปออกที่ Wenceslas Square หรือ Downtown ปราก ใช้เวลาทั้งสิ้น 32 นาที เร็วกว่าแท็กซี่อีกเนอะ



เดินทางในปรากแบบประหยัด


Public Transport ในปรากมี 3 อย่าง คือ รถประจำทาง, รถราง Tram  และ รถไฟใต้ดิน Metro
ตั๋วเดินทางในปรากคิดตามระยะเวลาคะ ซื้อตั๋วครั้งเดียวใช้ได้กับรถทั้งสามชนิดตามระยะเวลาที่ซื้อ
ตั๋วที่แนะนำ คือ ตั๋ว 30 นาที, 90 นาที และตั๋วหนึ่งวัน
ราคาปี 2016
ตั๋ว 30 นาที ราคา 24 CZK = 0.9 ยูโร = 35 บาท
ตั๋ว 90 นาที ราคา 32 CZK = 1.2 ยูโร = 47 บาท
ตั๋วหนึ่งวัน   ราคา 110 CZK = 4.1 ยูโร = 156 บาท
ตั๋วซื้อได้ที่ตู้ขายตั๋วสีส้มๆ เหลืองๆ มีปุ่มเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษที่ตู้นะ
ตู้ปกติจะรับแต่เงินคราวน์ CZK แต่ถ้าเป็นตู้รุ่นใหม่ๆ จะรับบัตรเครดิตด้วย

ก่อนจะขึ้นรถประจำทาง, รถราง หรือ metro อย่าลืมสอดตั๋วเข้าเครื่องตรวจนะ ตั๋วจะเริ่มนับเวลาตั้งแต่เข้าเครื่องตรวจ


Tram หรือรถราง ก็ถือเป็นการเดินทางที่สะดวกมาก มีป้ายจอดทุกๆ 200 เมตร และมี wifi บนรถด้วย แต่ถ้าจะขึ้น Tram ต้องหาที่ซื้อตั๋วมาก่อนนะ เพราะแถวๆ ป้ายจอด Tram ไม่ค่อยมีตู้ขายตั๋ว




Metro หรือ รถไฟใต้ดิน  สถานี Metro สังเกตุได้จากป้ายสีเหลืองมีรูปลูกศรชี้ลง
Metro ที่ปรากมี 3 สาย
สายสีเขียว หรือ สาย A
สายสีเหลือง หรือ สาย B
สายสีแดง หรือ สาย C


บันไดเลื่อนใน Metro ถ้ายืนเฉยๆ อยู่ขวา แต่ถ้ารีบก็เดินลงด้านซ้ายได้เลย
ตามสถานี Metro ในปรากจะมีงานปฏิมากรรมซ่อนอยู่ตามจุดต่างๆ ลองหาดูกันนะคะ
ถ้าให้ดีลองไปที่สถานี NAMESTI MIRU จะได้ประสบการณ์ขึ้นบันไดเลื่อนที่ยาวมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ยังไงก็ยาวที่สุดในเชกแน่นอน



สุดท้าย รถประจำทาง ถ้าพักอยู่ในตัวเมืองก็คงไม่ค่อยได้ใช้เท่าไร เพราะรถประจำทางจะวิ่งอยู่เขตชานเมืองปรากเท่านั้นคะ


***Public Transport ในปรากให้บริการถึงแค่เที่ยงคืนเท่านั้น*** 
เพราะงั้นอย่าเที่ยวเพลินจนลืมเวลานะคะ



หลังเที่ยงคืนจะมี Night Tram กับ Night Bus ให้บริการ ดูป้ายและตารางเดินรถได้ที่ป้ายรถประจำทางปกติ สายกลางคืนจะขึ้นต้นด้วยเลข 5 เช่น 51, 52, 52 ก่อนขึ้นรถอย่าลืมซื้อตั๋วเดินทาง และเสียบตั๋วที่เครื่องตรวจตั๋วบนรถด้วยนะคะ

ถ้าใครมากันหลายคนอยากเดินนั่งรถสบายๆ ก็เรียกแท็กซี่ หรือ Uber มาแชร์กันได้คะ
แท็กซี่ควรจะเป็นแท็กซี่ที่โทรเรียกมาจากศูนย์ พวกรถแท็กซี่ที่ยืนรอลูกค้าอยู่แถว Wenceslas Square หรือ Old Town Square พวกนี้ส่วนใหญ่หวังฟันค่าแท็กซี่

ค่าแท็กซี่ที่ปรากคิดค่าขึ้นรถ หรือค่าเปิดมิเตอร์ที่ 40 CZK = 1.5-1.7 ยูโร และคิดค่าเดินทาง 1 กม. = 1 ยูโร

ก่อนลงจากรถอย่าลืมของใบเสร็จที่ปริ้นท์จากเครื่องด้วยนะคะ ในนั้นจะบอกหมดว่าค่าเดินทางเท่าไร แต่ถ้าคนขับแท็กซี่ไม่ให้ หรือให้ใบเสร็จแบบเขียนมา ให้สงสัยไว้ก่อนว่าเราอาจถูกโกงคะ
กรณีนี้เรียกตำรวจมาช่วยได้ โทร. 156 ตำรวจที่นี่พูดภาษาอังกฤษได้คะ

ถ้าใช้ Uber ค่าบริการอยู่ที่ 10 CZK = 0.4 Euro = 1 กม.

ที่ปรากยังมีบริการคล้ายๆ Uber อยู่อีกหลาย App ถ้าไปปรากแล้วลองใช้กันดูก็ได้คะ

วันนี้เอาแค่นี้ก่อน เดินทางประหยัด และปลอดภัยในปรากนะคะ 

18 June 2017

37 สิ่งที่อยากให้ทำที่ปราก

 37 สิ่งที่ต้องทำที่ปราก

ดื่มเบียร์ เพราะเบียร์ Pilsner อร่อยและถูกกว่าน้ำเปล่า

ถ่ายเซลฟี่คู่กับอนุสาวรีย์  St. Venceslav ขี่ม้า 
ไปตามหาอนุสาวรีย์อีกอันที่ขี่ม้ากลับหัว
เดินเที่ยวไปตามถนนในเมืองปราก
ไปดูนาฬิกา Astronomical Clock ตีบอกเวลาที่จัตุรัสเมืองเก่า


เดินเที่ยวไปตามทางในเขต Old Town
เดินข้ามสะพาน Charles Bridge
นั่งชิลๆ ริมแม่น้ำ
ขึ้นรถรางไปที่เนิน Petrin
แล้วไปเดินเล่นในสวน Petrin
ไปเดินหลงอยู่ใน Mirror maze ในห้องวงกตกระจกเงา
ขึ้นไปดูวิวบนยอดหอคอย Petrin Tower
เดินขึ้นไปที่ Prague Castle

 
  • ดู Prague Castle ให้ทั่ว
  • เข้าไปดู St. Vitus cathedral


 
  • เข้าไปเดินเที่ยวใน Golden Lane  หลัง 5 โมงเย็นนะจ๊ะ เพราะฟรี
  • เดินลงมาตามบันไดปราสาทเก่า old castle stairs

 
  • หาสวน Vrtba garden ที่ซ่อนอยู่ให้เจอ เป็นสวนแบบเทอร์เรซสไตล์บาโร๊กที่มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 คะ ที่ว่าซ่อนอยู่เพาะแผนที่ท่องเที่ยวไม่ใส่ไว้คะ ต้องหาจาก Google Map สวนนี้อยู่บนเส้นทางระหว่าง Charles Bridge กับ Prague Castle ใกล้ St.Nicholas Church (ใบ้เยอะไปมั้ย) ลองหาดูนะคะ
  • กินเบอร์เกอร์ของเชก
  • ตามหา  Vyšehrad  โบถส์เก่าที่สวยมากแต่ไม่มีนักท่องเที่ยวไป (เพราะอยู่นอกเขตแผนที่ท่องเทียวจ้า)
  • ชมวิวเมืองปรากจากที่สูง (สวยจริงๆ คะ ขอบอก) 
  • ลองเหล้ารัมท้องถิ่น
  • ลองกินอาหารพื้นเมืองเชก
  • ไปดูอุโมงค์หนังสือที่ห้องสมุดแห่งชาติเชก

 

  • ลองกาแฟเชก
  • เล่นเรือถีบในแม่น้ำวอลตาวา
  • ไปฟังคอนเสิร์ตฟรีที่ Strelecky ostrov เกาะกลางแม่น้ำวอลตาวา
  • ถ้ามากับเด็กๆ ก็ต้องไปลองสวนสัตว์เชกคะ
  • แล้วก็เลยไปดู Troja castle ที่อยู่ข้างสวนสัตว์ ปราสาทนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 19 (สองที่นี้อยู่นอกเมืองนะคะ)

  • ไปชมตึก Municipal house ในเขต Old Town
  • อย่าลืมไปดูวิว National theatre

 
  •  อย่าลืมไปดูอนุสาวรีย์หมุนได้  Franz Kafka statue อนุสาวรีย์นักเขียนอมตะของเชก
  • อย่าลืมไปดูตึก Rudolfinum
  •     ไปชมวิวเมืองปรากที่สวยจนลืมหายใจที่สวนสาธารณะ Letna
  •     ปิดทริปด้วยเบียร์อีกซักแก้ว
  •     สุดท้าย ลืมมันไปให้หมดคะ แค่เที่ยวตามใจอยากไปเรื่อยๆ ก็พอ


ปราก ใครไปก็หลงรัก

มารู้จักปรากกันนิดๆ หน่อยๆ ก่อนเดินทาง


ปราก (Prague) หรือ ปราฮา (Praha) ในภาษาเช็ก เมืองมรดกโลกสุดแสนโรแมนติก เป็นทั้งเมืองหลวง และเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเช็กเกีย มีชื่อเรียกเล่นๆ ว่า “เมืองปราสาทร้อยยอด” ตามยอดแหลมมากมายของปราสาทที่พบเห็นได้ทั่วไปในเขตเมืองเก่า ใครๆ ที่ได้เคยไปสัมผัสคงปฎิเสธไม่ได้ว่า ปรากเป็นเมืองน่าที่หลงใหลไม่ว่าจะในด้านสถาปัตยกรรม วัฒนธรรม หรือประวัติศาสตร์ เสน่ห์ของปรากอยู่ที่ความเป็นเมืองเก่าที่ยังคงมีชีวิตชีวา ปรับตัวผ่านช่วงเวลายาวนานตั้งแต่ยุคโรมัน ยุคกลาง เคยผ่านเหตุการณ์ฆ่าล้างชาวยิวในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ผ่านยุคคอมมิวนิสต์หลังม่านเหล็ก มาจนถึงยุคที่สหภาพโซเวียตล่มสลาย และแยกออกจากประเทศเชกโกสโลวาเกียจนกลายมาเป็นสาธารณรัฐเช็กเกียเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน นับแต่นั้นปรากกลายเป็นเมืองที่น่าท่องเที่ยวมากที่สุดในยุโรปตะวันออก เป็นจุดหมายปลายทางของใครหลายๆ คนมาจนถึงปัจจุบัน จากสถิติปรากจัดเป็นเมืองยอดนิยมอันดับ 5 ของยุโรปเลยทีเดียว






เกริ่นมาก็เยอะแล้ว เข้าเรื่องกันดีกว่า



ปรากเป็นเมืองมรดกโลกมาตั้งแต่ปี 1992 พื้นที่ส่วนใหญ่ใจกลางเมืองเป็นเขตเมืองเก่าที่บ้านเมืองสร้างขึ้นมาหลายร้อยปี สิ่งหนึ่งที่อยากให้ทำมากเวลาไปปรากคือขึ้นไปดูวิวเมืองปรากจากที่สูง แค่ได้เห็นวิวของเมืองแบบพาโนรามาก็สวยจนลืมหายใจได้เลยทีเดียว เมืองนี้ถ้าจะเที่ยวให้ทั่วก็ใช้เวลาประมาณ 3 วัน แต่ขอบอกว่าใครจะไปเที่ยวปรากอย่าลืมติดรองเท้าคู่เก่งที่ใส่สบายเดินได้นานๆ ไปด้วยนะคะ ประเภทสวยแต่กัดนี่เก็บไว้โอกาสหน้า เพราะการสัมผัสปรากแบบได้บรรยากาศที่สุดต้องเดินเท่านั้นคะ 


แถมอีกนิด ปรากเป็นเมืองท่องเที่ยว แต่ไม่ใช่เมืองช๊อปปิ้ง ถึงแม้เบียร์และสินค้าในซุปเปอร์มาร์เก็ตจะราคาค่อนข้างถูก แต่สินค้าแบรนด์เนม และเครื่องสำอางค์กลับราคาสูงกว่าที่ออสเตรีย และเยอรมัน คนเชกเองบางทียังหนีไปช๊อปฝั่งนู้นเลยคะ





5 สิ่งที่ไปปรากแล้วห้ามพลาดเด็ดขาด




Charles Bridge 


Prague Castle

St. Vitus Cathedral



Golden Lane 


Old Town Square  


     



       

   เรามาเริ่มต้นการเดินทางที่ชาร์ลบริดจ์ Charles Bridge ใครไปกรุงปรากแล้วไม่ไปเหยียบชาร์ลบริดจ์ก็เหมือนไปไม่ถึง สะพานนี้ได้รับการจัดอันดับจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกว่าเป็นสถานที่ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงปรากทั้งเวลากลางวันและกลางคืน สองข้างทางเรียงรายด้วยรูปปั้นนักบุญในศาสนาคริสต์ สะพานนี้สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 อายุคร่าวๆ ก็ 700 ปี เป็นสะพานข้ามแม่น้ำวอลตาวาแห่งเดียวที่เชื่อมต่อสองฝากฝั่งจนกระทั่งปี 1841 ความยาวก็ชิลๆ 520 เมตรเท่านั้นคะ




    ข้ามสะพานชาร์ลบริดจ์ Charles Bridge ไปก็จะเจอปราสาทปราก Prague Castle  อยู่ลิบๆ ข้างหน้า หรือถ้าขี้เกียจเดินก็ขึ้น Metro สายสีเขียวลงที่สถานี Malostranska แล้วเดินต่ออีก 10 นาที หรือถ้าขี้เกียจเดินสุดๆ ก็ให้ขึ้นรถราง หรือ Tram สาย 22 ที่วิ่งผ่านทั่วเมือง ลงที่สถานี Prazsky Hard หรือสถานี Prague Castle ลงหน้าปราสาทเลยคะ ถึงจะเรียกว่าปราสาท แต่จริงๆ แล้วเป็นเหมือนเมืองย่อมๆ เลยทีเดียว สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ อีกสามแห่งของปรากก็อยู่ที่ในบริเวณรอบปราสาทนี่เองคะ



  Prague Castle ตั้งอยู่บนเนินเขา มองลงมาเห็นตัวเมืองสวยมากทีเดียว ปรากนี่ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็สวยคะ ปราสาทนี้ปัจจุบันเป็นที่พักประจำตำแหน่งของประธานาธิปดีอีกด้วย ลองสังเกตดูที่ยอดปราสาท ถ้ามีธงสัญลักษณ์ของประธานาธิบดีอยู่ แสดงว่าตอนนั้นท่านอยู่ที่นี่คะ

  ภายนอกปราสาทและบริเวณรอบๆ ชมฟรีคะ แต่ถ้าจะเยี่ยมชมภายในปราสาทต้องซื้อตั๋ว ราคาเริ่มต้นที่ 250 CZK (ราวๆ 360 บาท) ไปจนถึงราคา 700 CZK (ราวๆ 1,015 บาท) อันนี้แล้วแต่เลยคะ กระเป๋าใครกระเป๋ามัน อีกสิ่งที่น่าดูของปรากคาสเซิ่ลคือ ตอนทหารเฝ้าประตูปราสาทเปลี่ยนเวรคะ จะเปลี่ยนเวรทุกๆ 1 ชั่วโมง กะสุดท้ายอยู่ที่ 6 โมงเย็น



   พื้นที่ภายในกำแพงปราสาทปรากกว้างมาก มีหลายอย่างให้เลือกดู ที่เห็นจะพลาดไม่ได้คือ โบสถ์ St. Vitus Cathedral เป็นโบสถ์ที่สำคัญที่สุดของปราก เคยเป็นสถานที่ประกอบพิธีครองราชของกษัตริย์และราชินีในสมัยโบราณ โบสถ์นี้เปิดให้เข้าไปชมได้ฟรีในบางส่วน แต่ประตูปิดตอน 16.40 น. อย่าลืมเช็คเวลาด้วยนะคะ โบสถ์สร้างด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์กอธิก Gothic ที่ดูทั้งสวยลึกลับ และศักดิ์สิทธิ์ สเตนกลาสภายในโบสถ์ก็สวยมากจริงๆ
    

       



   Golden Lane เป็นชุมชนเก่าแก่ที่อยู่คู่กับปราสาทปราก เป็นที่อยู่ของทหาร, ข้ารับใช้ของปราสาท รวมถึงช่างทอง และช่างฝีมือต่างๆ ที่ได้ชื่อว่า Golden Lane ก็เพราะเคยเป็นที่อยู่ของช่างทองนี่ละคะ ถ้าจะเข้าไปชมต้องซื้อตั๋วราคา 10 ยูโร ก็ราวๆ 380 บาท แต่ถ้าใครอยู่สายฟรีให้รอหลัง 5 โมงเย็นจะเปิดให้เข้าฟรีคะ ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะรู้กันดี ตอน 5 โมงเย็นคนก็เลยจะเยอะเป็นพิเศษ จะให้ดีไปตอนหนึ่งทุ่มกำลังเดินสบายคะ Golden Lane จะมีร้านของฝากของที่ระลึกพื้นเมืองให้เลือกซื้อ 

    Golden Lane เคยเป็นที่อยู่ของคนดังมาแล้วหลายคน ที่ดังสุดก็นักเขียนประจำชาติเชกเกีย Franz Kafka 
        





ถ้าใครเดินมาทั้งวันแล้วเกิดกระหายน้ำ น้ำประปาที่เชกดื่มได้คะ น้ำเปล่า และเครื่องดื่มอื่นๆ ที่ขายอยู่รอบบริเวณ Prague Castle เป็นราคานักท่องเที่ยวนะคะ จะแพงกว่าในเมือง 3-4 เท่า ถ้าไม่จำเป็นประหยัดเงินไว้ดีกว่าคะ


มาปรากแล้วที่พลาดไม่ได้คือ  Old Town Square จัตุรัสเมืองเก่า ถือเป็นหัวใจหลักของเขตเมืองเก่าของปราก เขต Old Town เต็มไปด้วยตึกเก่าสไตล์บาโร๊ค และโบสถ์สไตล์กอธิคมากมาย จุดไฮไลท์ของย่านเมืองเก่าอยู่ที่นาฬิกาดาราศาสตร์ Astronomical Clock ที่สร้างตั้งแต่สมัยยุคกลางที่จะมีลูกเล่นทุกครั้งที่ตีบอกเวลา




     ปรากยังมีอะไรน่าสนใจอีกเยอะ โพสต์หน้าจะมาเล่าเพิ่มคะ 



หมายเหตุเลยคะ!!! อย่าแลกเงินตามร้านข้างทางนะคะ เพราะพวกนี้ให้เรทต่ำมากไม่คุ้มเลย ถ้าไม่มีเงินคราวน์ KORUNA (CZK) ติดตัวจริงๆ ให้ใช้บัตรเครดิตแทนได้คะ
ค่าเงินคร่าวๆ ก็ตามนี้คะ  1 KORUNA = 1.45 บาท
                                    1 EURO = 27 KORUNA
                                    1 EURO = 38 บาท